กรุงเทพฯ เปิดนโยบายสนับสนุนพื้นที่สำหรับ “ดนตรีและศิลปะการแสดง” สร้างเมืองสร้างสรรค์สำหรับทุกคน

ถึงแม้ “อุตสาหกรรม ดนตรี และ ศิลปะการแสดง” จะหนึ่งใน 15 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ได้ให้คำนิยามไว้ แต่บุคลากร รวมทั้ง ผลงานสร้างสรรค์ประเภทนี้ ก็ยังขาดการผลักดันและสนับสนุนอย่างจริงจัง

และ ประสบปัญหา สำหรับในการสร้างงานให้เป็นอาชีพ โดยยิ่งไปกว่านั้น ในตอนการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ถือได้ว่าเป็นตอนที่ท้าทาย สำหรับศิลปินในวงการดนตรี และ การแสดง เป็นอย่างมาก

จ.กรุงเทพฯ ได้มองเห็นจุดสำคัญของงานสร้างสรรค์รูปแบบนี้ จึงได้จัดพื้นที่สำหรับดนตรี และก็ ศิลปะการแสดง ให้กับประชาชนทั่วๆไปได้ร่วม

โดยจัดงานแถลงข่าวแผนการด้านการผลักดันและสนับสนุนพื้นที่สำหรับดนตรี แล้วก็ การแสดง ในกรุงเทพมหานคร ตอนวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ในสวนสันติชัยปราการ

พร้อมทั้ง วงเสวนาเรื่อง “ความท้าทาย แล้วก็ แผนการการขับเคลื่อนเมืองด้วยงานสร้างสรรค์ด้านดนตรี และ ศิลปะการแสดง” และก็ การแสดงของศิลปินมากความสามารถ

กรุงเทพฯ เปิดนโยบาย

ขับเคลื่อนเมืองด้วยงานสร้างสรรค์

“พื้นที่สาธารณะเป็นเหมือน “ปากของเมือง” เมืองที่ไม่มีพื้นที่สาธารณะเปิดให้คนในเมืองมาลองแสดงไอเดีย ก็เหมือนเมืองที่ถูกปิดปาก แต่ว่าหาก เราเปิดสวน เปิดพื้นที่สาธารณะ ก็เหมือนเป็นการเปิดปากให้กับเมือง รวมทั้ง เมื่อเมืองเปิดพื้นที่สาธารณะให้เมืองได้แสดงแล้ว เรา จะเห็นจริงๆว่า เอกลักษณ์ของเมืองนี้คืออะไร แล้วความน่ารักของเมืองที่ซ่อนอยู่ มันเป็นอย่างไร”

พงศ์สิริ เหตระกูล หนึ่งในผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรุงเทพฯ กล่าว

ตุล ไวฑูรเกียรติ นักดนตรีชื่อดัง แล้วก็ ผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรุงเทพฯ สะท้อนว่า ดนตรี และ ศิลปะการแสดง คือ ทุกแง่ทุกมุมของชีวิต มันเป็นภาษา วัฒนธรรม แล้วก็ สามารถทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เหมือนกัน

ด้านกฤษณ์ สงวนปิยะพันธ์ นักแสดงสตรีทโชว์ อีกหนึ่งผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ก็ชี้ว่า ความท้าทายของการทำงานขับเคลื่อนเรื่องศิลปะในเมือง เป็นการเปลี่ยนแนวทางคิดของคนภายในสังคม จากแนวความคิดที่ว่า ศิลปะจะเกิดขึ้นได้ เมื่อบ้านเมืองไม่มีปัญหาเรื่องปากท้อง จะต้องเปลี่ยนแปลงให้ศิลปะ และก็ งานสร้างสรรค์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา ทำให้ศิลปะเข้าถึงประชาชนทุกคน

“มันไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ รวมทั้ง เศรษฐกิจ แต่ว่าเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ เป็นสิ่งสำคัญ หากจะเอ่ยถึงนโยบายสร้างสรรค์ มันจำเป็นต้องบอกกับเมืองในตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่รอคอยให้พื้นฐานดี แล้วศิลปะจะเกิด

ถ้าแบบนั้น ศิลปิน ก็จะไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปาก ดังนั้น ทำยังไงเรา ถึงจะสนับสนุนศิลปะ โดยที่ไม่ต้องคอยให้ทุกอย่างมันดี แต่ว่าให้ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองสร้างสรรค์ และก็ ช่วยแก้ปัญหาของเมืองดีกว่า” กฤษณ์ ระบุ

“สิ่งที่กรุงเทพมหานคร สนับสนุนได้ เป็นเรื่องการกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิด Soft Power ซึ่งคำนี้บอกกันมาก แต่ว่าสิ่งที่เป็นรูปธรรมเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่จ.กรุงเทพฯ สามารถปลดล็อก แล้วก็ ทำให้เปิดกว้างให้กับประชาชนได้จริงๆ ก็คือ

พื้นที่สาธารณะ หรือ บางโซนที่เรา มีความรู้สึกว่า สามารถเปิดให้นักดนตรีที่ยังไม่ใช่มืออาชีพ มาแสดงความสามารถได้ ซึ่งจังหวัดกรุงเทพมหานคร ควรทำให้มีพื้นที่แบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเศรษฐกิจสร้างสรรค์ถึงจะเกิดขึ้นได้จริง เรา ถึงจะมีพื้นที่ มีบุคลากรเก่งๆด้านนี้ได้”

กรุงเทพฯ เปิดนโยบาย ดนตรี และศิลปะการแสดง

 

ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ชี้

จ.กรุงเทพฯ นำร่องพื้นที่ “โซนใช้เสียง”

เนื่องจาก ตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย จังหวัดกรุงเทพ ก็เลยทดลองนำร่อง “โซนใช้เสียง” ในพื้นที่ 12 สวนสาธารณะ ครอบคลุม 6 โซนทั่วกรุงเทพฯ

และก็ เปิดให้ผู้จะนำอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีมาเล่น หรือ ฝึกซ้อมการแสดงในโซนนี้ แต่จำเป็นต้องกระทำตามกฎที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

บริเวณที่จัดให้เป็นโซนใช้เสียง มีดังต่อไปนี้

1. สวนลุมพินี เขตปทุมวัน: ศาลาภิรมย์ภักดี และก็ เวทีบันเทิง (2 จุด)
2. สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย: ลานแสดงกลางแจ้ง, ลานใกล้ทางขึ้นสกายวอล์ค (2 จุด)
3. อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย: ลานนก
4. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร: ลานหญ้า บริเวณประตูจอดรถยนต์
5. สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร: ขั้นบันไดริมกำแพงป้อมพระสุเมรุ
6. สวนรมณีนาถ เขตพระนคร: ลานหน้าประตูคุกเก่า
7. สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (เคหะร่มเกล้า) เขตลาดกระบัง: ลานแอโรบิก
8. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม: ลานเอนกประสงค์
9. สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบฯ (สะพานพระราม 9): ศาลาดนตรีไทย
10. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สวนบางขุนนนท์) เขตบางกอกน้อย: ลานกิจกรรมริมบึง
11. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด: ศาลาแปดเหลี่ยมริมน้ำ
12. สวนธนบุรีรมย์เขตทุ่งครุ: ลานนั่งเล่นแปลง 1, ลานแปลงปาล์ม, ลานกิจกรรมแอโรบิก (3 จุด)

กิจกรรม ดนตรี ในสวน

เทศกาล Colorful Bangkok 2022 เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นระหว่างพฤศจิกายน 2565 – เดือนมกราคม 2566 ซึ่งมี เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ เทศกาลแสงสี รวมทั้ง เทศกาลดนตรี โดยมกราคม นับว่าเป็นเดือนของเทศกาลดนตรี ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร จะจัดงานกิจกรรม “ดนตรีในสวน” 28 ครั้ง ใน 10 พื้นที่

ทั้งยังในสวนสาธารณะ ศูนย์เยาวชน รวมทั้ง มิวเซียมสยาม โดยมีทั้งยังงานที่จัดโดยจ.กรุงเทพฯ และ องค์กรภาคี มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างพื้นที่แสดงฝีมือให้กับศิลปิน เยาวชน คนทั่วๆไป และ ศิลปินหน้าใหม่

ศิลปินมีชื่อเสียงจากค่ายเพลงต่างๆ ได้เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าว เหมือนกันกับจะเข้าร่วมสร้างสีสันให้กับเทศกาลดนตรีในสวน ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งเดือนมกราคม เช่น SpicyDisc, Muzik Move, Idol Exchange, Space bar Music Hub, Papa Dude แล้วก็ ยังมีอีกหลายค่ายที่แสดงความสนใจส่งศิลปินเข้าร่วมกิจกรรม

นอกเหนือจากนี้ ทรงกรุงเทพฯ ยังร่วมมือกับบริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด (MCT) เพื่อให้ทุกเพลงที่ประยุกต์ใช้แสดงในกิจกรรม เป็นเพลงที่ถูกตามลิขสิทธิ์ รวมถึง นักแต่งเพลง รวมทั้ง ศิลปิน จะมีรายได้จากผลงานเพลงที่แต่งไว้อีกด้วย

โครงการ Bangkok Street Performer ศิลปินเปิดหมวกกรุงเทพฯ

อีกหนึ่งแผนการผลักดันให้พื้นที่สาธารณะของกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่แห่งดนตรี และก็ ศิลปะการแสดง (สตรีทโชว์) ทางจังหวัดกรุงเทพ จึงเปิดรับสมัครศิลปิน และ นักแสดง
(อีกทั้งศิลปินเดี่ยว และก็ กลุ่ม) ประเภทเยาวชน แล้วก็ บุคคลทั่วไป เพื่อเล่นดนตรี แล้วก็ แสดงสตรีทโชว์แบบเปิดหมวกได้ในพื้นที่สาธารณะ

กรุงเทพฯ เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – 17 เดือนมกราคม 2566 (เวลา 23.59 น.) รวมทั้ง จะมีการพิจารณาผล โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงดนตรี รวมทั้ง การแสดง ประกาศผลศิลปินที่ผ่านการคัดเลือก ในวันที่ 20 เดือนมกราคม 2566 ผ่านทางเฟสบุ๊กแฟนเพจ: กรุงเทพมหานคร และ ทางอีเมล (สำหรับผู้ได้รับการคัดเลือกเพียงแค่นั้น)

กิจกรรมดนตรีในสวน

ศิลปิน ดนตรี ที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็น Bangkok Street Performer

  • จะได้รับ BKK Street Performer ID ซึ่งถือเป็นการการันตีคุณภาพศิลปิน โดย ID จะมีอายุ 1 ปี (สามารถต่ออายุได้ เมื่อถึงกำหนด)
  • ศิลปินสามารถนำ ID ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มาจองพื้นที่ เพื่อกระทำการแสดงได้ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ แล้วก็ สามารถเลือกวัน เวลา และก็ สถานที่ที่ต้องการได้
  • โดยทางจ.กรุงเทพฯ เป็นผู้กำหนดบริเวณทำการแสดงในพื้นที่สาธารณะต่างๆ พร้อม slot เวลาที่อนุญาตให้จองพื้นที่ได้ (ทดลองการจองพื้นที่ แล้วก็ ทำการแสดงในเดือนมกราคม 2566 และ จะพิจารณาดำเนินงานต่อเนื่อง หากไม่มีข้อขัดข้อง)
  • ศิลปินสามารถทำการแสดงแบบเปิดหมวก เพื่อหาเงินจากความพึงพอใจของผู้ชมได้ โดยผู้ชมไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้จ่าย และก็ ห้ามมีการค้าขายสินค้าอื่นๆ
  • ศิลปินอาจได้รับเชิญชวนให้ไปทำการแสดงในกิจกรรมดนตรีในสวน และ กิจกรรมอื่นๆ ที่จัดโดยจ.กรุงเทพฯ หรือ ที่จ.กรุงเทพฯร่วมเป็นเจ้าภาพ
  • ศิลปิน Bangkok Street Performer จำเป็นต้องยอมรับ และ ทำตามข้อตกลง และ กฎระเบียบของโครงการอย่างเคร่งครัด

พื้นที่ที่เปิดให้ศิลปิน Bangkok Street Performer ในโครงการทำการแสดง (ช่วงทดลอง 23 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์)

  •  พื้นที่ในMRTสถานีกำแพงเพชร
  • พื้นที่ในMRTสถานีจตุจักร
  • พื้นที่ในMRTสถานีพระราม 9
  • พื้นที่ในMRTสถานีสุขุมวิท
  • บริเวณทางเชื่อมยกระดับแยกปทุมวัน
  • บริเวณทางเชื่ออมยกระดับแยกสาทร-นราธิวาส
  • บริเวณทางเชื่อมยกระดับห้างไอคอนสยาม